ทางเลือกใหม่!!...สำหรับผู้ที่มีปัญหาเซลล์ผิดปกติต่างๆ เช่น เซลล์เนื้อร้าย เซลล์เนื้องอก พังผืด ซีสต์ และเลือดจาง ... ผลิตภัณฑ์เบต้า-ไบโอเทค เป็นตัวช่วยลดปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คอลลาเจน 258.00 mg สารสกัดชาเขียว 84.00 mg สารสกัดถั่วเหลือง 82.98 mg สารสกัดจากเห็ดหลินจือ 49.02 mg สารสกัดเปลือกสน 30.00 mg และอื่นๆ 96.00 mg
สนใจสอบถาม Tel : 091-575-4565
line Id : joob5665
วิธีรับประทาน : หลังอาหาร ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น) 1 กระปุก บรรจุ 30 แคปซูล
วิธีรับประทาน : หลังอาหาร ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น) 1 กระปุก บรรจุ 30 แคปซูล
เบต้า-ไบโอเทค 1กป.ราคาปกติ 900 บาท / พิเศษ 2กป.ในราคา 1,500 บาท
(ส่งฟรี EMS ในประเทศ)
====================================================================
Betabiotech ผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเทค
เบต้าไบโอเทค Beta Biotech เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ไบโอเทคโนโลยี เป็นกรรมวิธีในการผลิต จึงสามารถรักษาคุณประโยชน์ของโอสถสาร หรือคุณประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ในพืชผักผลไม้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ 100 %
ดังนั้นจึงให้คุณมั่นใจได้ว่า ทันทีที่คุณรับประทานผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเทคโอสถสารหรือสารที่มีประโยชน์จากพืชผักผลไม้กว่า 40 ชนิด จะถูกดูดซึมไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆในร่างกายทันที ซ่อมแซม บำรุงเซลล์ ฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่อ่อนแอ กระตุ้นการทำงานของเซลล์ในแต่ละหน้าที่ของร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตามสมดุลธรรมชาติของร่างกายอย่างแท้จริง
คุณประโยชน์หลักๆที่มีอยู่ใน ผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเทค Beta Biotech
- ซ่อมเซลล์ตับอ่อน ฟื้นฟูตับอ่อน (เบาหวาน)
- ซ่อมเซลล์ตับใหญ่ ฟื้นฟูตับใหญ่ (ไขมันพอกตับ)
- ซ่อมเซลล์ท่อเส้นเลือด ล้างไขมันในเส้นเลือด (คลอเรสเตอรอล อัมพฤษ์)
- ซ่อมเซลล์เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจให้สะอาด (หัวใจ)
- ซ่อมเซลล์เส้นเลือดเลี้ยงสมอง (เส้นเลือดในสมองตีบ)
- ซ่อมเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ จากแผลกดทับ (แผลเบาหวาน)
- เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- เสริมสร้าง และกระตุ้นไขกระดูก เพิ่มการผลิตเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว
- เพิ่มประสิทธิภาพภูมิต้านทานโรคต่างๆ
- บำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส อ่อนกว่าวัย
- บำรุงรักษาการอักเสบ เจ็บปวด ทุกส่วน
- บำรุงตับอ่อน (ต้านเบาหวาน) ล้างพิษตับ
- ป้องกันและต้านการเกิดเซลล์เนื้อร้าย เนื้องอก เซลล์ผิดปกติต่างๆ
ผักขม
=================================================================
Betabiotech ผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเทค สรรพคุณ ซ่อมเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ แผลเบาหวาน
แผลเบาหวาน มักจะเกิดขึ้นที่เท้า ความรู้ที่ไม่อาจมองข้ามได้
เบาหวานจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่เท้าซึ่งมีสาเหตุจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเท้าตีบแข็งจนบางครั้งอุดตัน ทำให้เกิดแผลเนื่องจากเนื้อเยื่อขาดเลือดหล่อเลี้ยง บางท่านอาจมีแผลอยู่ เช่นแผลจากการเกา แผลยุงกัด หรือจากการหกล้ม แผลเหล่านั้นก็จะหายมากค่ะ ปลายประสาทอักเสบ และเสื่อม(ทำให้ผู้ที่เป็นเบาหวานสูญเสียการรับรู้ ไม่มีการระมัดระวัง ) จึงทำให้เกิดแผลกดทับ แผลลุกลามมาก
โรคแทรกซ้อน
แผลที่เท้าของผู้ที่เป็นเบาหวาน มักมีการติดเชื้อร่วมด้วยเสมอค่ะ โดยเฉพาะมีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ทำให้การอักเสบลุกลามมากขึ้น เกิดการอุดต้นของเส้นเลือดฝอย ทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือด แผลมีกลิ่นเหม็นเน่าได้ค่ะ และหากมีภาวะแทรกซ้อนทางประสาทและหลอดเลือดด้วยแล้ว โอกาสที่จะรักษาหายก็ยากมากขึ้นตามลำดับ และโอกาสที่จะถูกตัดเท้าที่เป็นแผลก็มากขึ้นด้วยค่ะ
ใส่ใจกับการป้องกันกันดีกว่าค่ะ
@ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีที่สุด
@งดการสูบบุหรี่
@ควรออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ
@ควบคุมไขมันในเลือดให้อยู่ภาวะปกติ
@ควบคุมโรคความดันโรหิตสูงให้อยู่ภาวะปกติ (ผู้ที่เป็นเบาหวานส่วนใหญ่ จะมีภาวะความดันโลหิตสูงอยู่ด้วยค่ะ)
@ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่มาตราฐาน
@หมั่นดูแลเท้าของตัวเอง อย่าให้เกิดแผล หากมีแผลเพียงเล็กน้อยต้องรีบ พบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างโดยเร็วค่ะ..
ที่นี้รู้พิษสงของเจ้าแผลเบาหวานแล้วใช่ไหมคะ ทางที่ดีที่สุดเราควรดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบถ้วน (5หมู่) แต่ถ้าท่านใดที่ป่วยเป็นเบาหวานอยู่ อย่าเสียกำลังใจกันนะคะ หมั่นตรวจเช็คร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ระมัดระวังตัวตามคำแนะนำของแพทย์ให็เป็นวินัยค่ะ ก็หากไกลจากภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานแล้วค่ะ
====================================================================
คุณประโยชน์หลักๆที่มีอยู่ใน ผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเทค Beta Biotech
⇀ ซ่อมเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ จากแผลกดทับ
⇀ เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
⇀ เสริมสร้าง และกระตุ้นไขกระดูก เพิ่มการผลิตเม็ดเลือดขาว
⇀ เพิ่มประสิทธิภาพภูมิต้านทานโรคต่างๆ
⇀ บำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส อ่อนกว่าวัย
⇀ บำรุงรักษาการอักเสบ เจ็บปวด ทุกส่วนของร่างกาย
⇀ บำรุงตับอ่อน (ต้านเบาหวาน) ล้างพิษตับ
⇀ ป้องกันและต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง เนื้องอก เซลล์ผิดปกติต่างๆ
สารประกอบหลักใน เบต้าไบโอเทค Beta Biotech
ผักขม แครอท คลอลาเจน ชาเขียว เห็ดหลินจือ เปลือกสน และส่วนผสมจาก พืชผัก ผลไม้และสมุนไพร อีกหลายชนิด
***ผู้ที่อยู่ในภาวะมีแผลที่หายยาก แผลกดทับที่เป็นเรื้อรัง (โดยเฉพาะแผลเบาหวาน) ผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเทค จะช่วยฟื้นฟูเซลล์ของผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อที่ตายแล้ว หรือกำลังจะตายเนื่องเป็นบริเวณที่เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงได้**
ผักโขมเป็นผักสุขภาพชั้นยอดในใบผักโขมเป็นแหล่งวิตามินเอ วิตามินซี กรดแอมิโน และสารอาหารอื่นๆเช่น ธาตุเหล็กแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ในผักโขมยังมีเบต้าแคโรทีนสูงมีสารซาโปนินที่ช่วย ลดคลอเรสเตอรอลในเลือดอีกด้วยผักโขมยังมีเส้นใยอาหารมากจึงช่วยระบบขับถ่ายและลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้
นอกจากนี้จากการวิจัยยังพบว่า เมล็ดผักโขมที่ชาวตะวันตกชอบรับประทานนั้นมีคุณค่าโปรตีนและแคลเซี่ยมที่สูงกว่าน้ำนม อีกทั้งให้กรดแอมิโนชื่อไลซีนมากกว่าที่ได้จากข้าว หรือข้าวสาลีอีก
นอกจากนี้จากการวิจัยยังพบว่า เมล็ดผักโขมที่ชาวตะวันตกชอบรับประทานนั้นมีคุณค่าโปรตีนและแคลเซี่ยมที่สูงกว่าน้ำนม อีกทั้งให้กรดแอมิโนชื่อไลซีนมากกว่าที่ได้จากข้าว หรือข้าวสาลีอีก
แครอท
1. ช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา
ถ้าอยากให้ดวงตาคู่สวยยังคงมีสุขภาพดีอยู่กับเราไปนาน ๆ แครอทถือเป็นตัวเลือกที่ดีของอาหารบำรุงสุขภาพดวงค่ะ เพราะแครอทอุดมไปด้วยวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ช่วยป้องกันไม่ให้ดวงตาเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ใครที่จ้องหน้าจอทั้งวันละก็ รีบหามากินด่วนเลย
2. บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและดูอ่อนเยาว์
เมื่อคุณผู้หญิงอายุมากขึ้น ปัญหาเรื่องผิวพรรณก็ตามมาติด ๆ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าไม่อยากแก่ก่อนวัย และยังดูเด็กจนคนทายอายุไม่ถูกละก็ ขอแนะนำให้รับประทานแครอทเลย เพราะแครอทอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแบบเน้น ๆ ยิ่งกินยิ่งดูเด็ก ไม่เชื่อก็ลองดูสิคะ
3. ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์
การเสื่อมสภาพของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายล้วนเกิดจากอนุมูลอิสระที่เข้าไปทำลายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และสารต้านอนุมูลอิสระในแครอทก็เปรียบเสมือนกับอัศวินที่คอยปกป้องไม่ให้เซลล์ถูกทำลาย สาว ๆ คนไหนที่ไม่อยากร่างกายทรุดโทรมหรือแก่ก่อนวัย รับประทานแครอทหรือน้ำแครอทเป็นประจำ จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นแน่นอน !
4. บำรุงสุขภาพสตรีมีครรภ์
แครอทเป็นอาหารสุขภาพที่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะสามารถช่วยบำรุงสุขภาพทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ ช่วยเสริมสร้างให้ทารกเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง และลดความเสี่ยงของความผิดปกติที่จะเกิดทารก ในขณะที่ตัวคุณแม่เองนั้นก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคโลหิตจาง และกระตุ้นให้มีน้ำนมเพียงพอ ที่สำคัญยังเป็นอาหารควบคุมน้ำหนักให้คุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ด้วยล่ะ
5. ป้องกันผิวจากรังสียูวี
รังสียูวีถือว่าเป็นตัวการสำคัญในการทำลายผิว อีกทั้งยังทำให้เกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งสารอาหารจากธรรมชาติอย่างวิตามินเอที่มีในแครอทก็สามารถป้องกันผิวพรรณของคุณสาว ๆ จากรังสียูวีได้ อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระก็ยังเปรียบเสมือนสารกันแดดจากธรรมชาติป้องกันผิวจากแสงแดดไม่ให้หมองคล้ำได้อีกด้วย
6. ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม
อนุมูลอิสระที่มาจากอาหาร และมลพิษที่อยู่รอบตัวเปรียบเหมือนเป็นพันธมิตรชั้นดีของโรคมะเร็ง เพราะเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะเข้ามาทำลายเซลล์และอาจแปรสภาพให้เซลล์เหล่านั้นกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ แต่การรับประทานแครอทเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง และช่วยผู้ป่วยมะเร็งต่อสู้กับเซลล์มะเร็งในร่างกาย
7. กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร
สำหรับสาว ๆ ที่กำลังคิดจะลดน้ำหนัก ห้ามลืมเลือกแครอทเป็นผู้ช่วยในการสร้างหุ่นที่ผอมเพรียวแบบฟิต แอนด์ เฟิร์มนะคะ เพราะแครอทจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้มาก
8. ลดอาการช่วงมีประจำเดือน
แครอทเป็นอีกหนึ่งในอาหารที่่ช่วยลดอาการต่าง ๆ ในช่วงเป็นประจำเดือนได้เป็นอย่างดีเนื่องจากอุดมด้วยสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก วิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ซึ่งผู้หญิงจะสูญเสียธาตุเหล็กไปมากกว่าปกติ และถ้าหากร่างกายขาดธาตุเหล็กอาจทำให้อ่อนเพลีย ขาดสมาธิ ผมร่วง และเป็นโรคโลหิตจางได้ นอกจากนี้วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและควบคุมให้ประจำเดือนมาตามปกติ หมดปัญหาหนักใจเรื่องรอบเดือนผิดปกติไปได้เลย
9. ป้องกันการเกิดสิว
สารอาหารในแครอทไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงให้ผิวสวยใส แต่ยังช่วยปรับค่าพีเอช (pH) ในผิวให้เกิดความสมดุลอีกด้วย ลดการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ถ้าดื่มน้ำแครอทผสมน้ำผึ้งละก็ จะยิ่งช่วยรักษาสิวและยับยั้งไม่ให้เกิดสิวได้
10. ดูแลสุขภาพผมให้แข็งแรง และเงางาม
สำหรับเรื่องสรรพคุณในการบำรุงเส้นผม แค่รอทก็มีดีไม่ใช่เล่น เพราะวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีนที่อยู่ในแครอทมีฤทธิ์ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรงและเงางาม อีกทั้งวิตามินซีที่มีในแครอทเช่นกันก็ยังช่วยทำให้ผมที่ขาดความชุ่มชื้นกลับมานุ่มสลวยสมใจ
ถ้าอยากให้ดวงตาคู่สวยยังคงมีสุขภาพดีอยู่กับเราไปนาน ๆ แครอทถือเป็นตัวเลือกที่ดีของอาหารบำรุงสุขภาพดวงค่ะ เพราะแครอทอุดมไปด้วยวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ช่วยป้องกันไม่ให้ดวงตาเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ใครที่จ้องหน้าจอทั้งวันละก็ รีบหามากินด่วนเลย
2. บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและดูอ่อนเยาว์
เมื่อคุณผู้หญิงอายุมากขึ้น ปัญหาเรื่องผิวพรรณก็ตามมาติด ๆ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าไม่อยากแก่ก่อนวัย และยังดูเด็กจนคนทายอายุไม่ถูกละก็ ขอแนะนำให้รับประทานแครอทเลย เพราะแครอทอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแบบเน้น ๆ ยิ่งกินยิ่งดูเด็ก ไม่เชื่อก็ลองดูสิคะ
3. ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์
การเสื่อมสภาพของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายล้วนเกิดจากอนุมูลอิสระที่เข้าไปทำลายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และสารต้านอนุมูลอิสระในแครอทก็เปรียบเสมือนกับอัศวินที่คอยปกป้องไม่ให้เซลล์ถูกทำลาย สาว ๆ คนไหนที่ไม่อยากร่างกายทรุดโทรมหรือแก่ก่อนวัย รับประทานแครอทหรือน้ำแครอทเป็นประจำ จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นแน่นอน !
4. บำรุงสุขภาพสตรีมีครรภ์
แครอทเป็นอาหารสุขภาพที่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะสามารถช่วยบำรุงสุขภาพทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ ช่วยเสริมสร้างให้ทารกเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง และลดความเสี่ยงของความผิดปกติที่จะเกิดทารก ในขณะที่ตัวคุณแม่เองนั้นก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคโลหิตจาง และกระตุ้นให้มีน้ำนมเพียงพอ ที่สำคัญยังเป็นอาหารควบคุมน้ำหนักให้คุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ด้วยล่ะ
5. ป้องกันผิวจากรังสียูวี
รังสียูวีถือว่าเป็นตัวการสำคัญในการทำลายผิว อีกทั้งยังทำให้เกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งสารอาหารจากธรรมชาติอย่างวิตามินเอที่มีในแครอทก็สามารถป้องกันผิวพรรณของคุณสาว ๆ จากรังสียูวีได้ อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระก็ยังเปรียบเสมือนสารกันแดดจากธรรมชาติป้องกันผิวจากแสงแดดไม่ให้หมองคล้ำได้อีกด้วย
6. ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม
อนุมูลอิสระที่มาจากอาหาร และมลพิษที่อยู่รอบตัวเปรียบเหมือนเป็นพันธมิตรชั้นดีของโรคมะเร็ง เพราะเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะเข้ามาทำลายเซลล์และอาจแปรสภาพให้เซลล์เหล่านั้นกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ แต่การรับประทานแครอทเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง และช่วยผู้ป่วยมะเร็งต่อสู้กับเซลล์มะเร็งในร่างกาย
7. กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร
สำหรับสาว ๆ ที่กำลังคิดจะลดน้ำหนัก ห้ามลืมเลือกแครอทเป็นผู้ช่วยในการสร้างหุ่นที่ผอมเพรียวแบบฟิต แอนด์ เฟิร์มนะคะ เพราะแครอทจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้มาก
8. ลดอาการช่วงมีประจำเดือน
แครอทเป็นอีกหนึ่งในอาหารที่่ช่วยลดอาการต่าง ๆ ในช่วงเป็นประจำเดือนได้เป็นอย่างดีเนื่องจากอุดมด้วยสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก วิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ซึ่งผู้หญิงจะสูญเสียธาตุเหล็กไปมากกว่าปกติ และถ้าหากร่างกายขาดธาตุเหล็กอาจทำให้อ่อนเพลีย ขาดสมาธิ ผมร่วง และเป็นโรคโลหิตจางได้ นอกจากนี้วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและควบคุมให้ประจำเดือนมาตามปกติ หมดปัญหาหนักใจเรื่องรอบเดือนผิดปกติไปได้เลย
9. ป้องกันการเกิดสิว
สารอาหารในแครอทไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงให้ผิวสวยใส แต่ยังช่วยปรับค่าพีเอช (pH) ในผิวให้เกิดความสมดุลอีกด้วย ลดการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ถ้าดื่มน้ำแครอทผสมน้ำผึ้งละก็ จะยิ่งช่วยรักษาสิวและยับยั้งไม่ให้เกิดสิวได้
10. ดูแลสุขภาพผมให้แข็งแรง และเงางาม
สำหรับเรื่องสรรพคุณในการบำรุงเส้นผม แค่รอทก็มีดีไม่ใช่เล่น เพราะวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีนที่อยู่ในแครอทมีฤทธิ์ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรงและเงางาม อีกทั้งวิตามินซีที่มีในแครอทเช่นกันก็ยังช่วยทำให้ผมที่ขาดความชุ่มชื้นกลับมานุ่มสลวยสมใจ
คอลลาเจน
มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง จึงป้องกันและเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกายเพื่อเป็นการเกิดริ้วรอยลึกโดยจัดการกับสารอนุมูลอิสระที่ถูกเร่งมาจากปัจจัยต่างๆ มากมายโดยเฉพาะรังสียูวี ยิ่งป็นตัวการสำคัญ ที่ก่อให้เกิดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพอีกด้วย
ทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น กระชับใสและมีความเรียบเนียน ต่อต้านการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้นการดูแลผิวเพื่อการชะลอริ้วรอยโดยรับประทาน คอลลาเจน ยังเป็นอีกวิธีการหนึ่งในการเติมคอลลาเจนให้กับชั้นผิว
คอลลาเจนช่วยเพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นของคอลลาเจนที่ชั้นผิวหนัง ป้องกันฝ้า จุดด่างดำ และ กระ นอกจากนี้ยังช่วย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตโดยเฉพาะหลอดเลือดเล็ก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น คอลลาเจนสามารถลดการเกิดรอยดำ รวมทั้งกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ที่ชั้นผิวหนัง ป้องกันการสูญเสียน้ำที่ชั้นผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ลดการระคายเคือง ที่ผิวหนัง ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี กระจ่างใสยิ่งขึ้น
ชาเขียว
- ช่วยในการขับสารพิษ และสารอนุมูลอิสระ จึงส่งผลในการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง และโรคความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย EGCG จากชาเขียวสกัด เป็นสารต้าน"อนุมูลอิสระ"ที่ทรงประสิทธิภาพ มีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการป้องกันการเกิดโรคท่อเลือดแดง และหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดอุดตัน (Coronary Artery Disease) จากการวิจัยพบว่า ชาเขียวสามารถช่วยลดคอเรสเตอรอลรวม และเพิ่มปริมาณคลอเรสเตอรอลชนิดดี(HDL)
- สารโพลีฟีนอล สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ สามารถช่วยทำลายเซลล์มะเร็งและหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ ทั้งนี้ ชาเขียวมี ผลลัพธ์ ทางการแพทย์ในเชิงบวกต่อการรักษามะเร็งประเภทต่อไปนี้ เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งทรวงอก มะเร็งรังไข่ มะเร็งปลายลำไส้ใหญ่หรือไส้ตรง มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมน้ำอสุจิ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งกระเพาะอาหาร
- ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานประเภท-I และชะลอการเกิดโรคเบาหวาน เมื่อโรคเบาหวานได้เริ่มต้นเกิดขึ้นแล้ว โดยจะทำการควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล
- ช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ จึงสามารถช่วยล้างพิษและกำจัดพิษในลำไส้ของเราได้
- ช่วยในการการป้องกันตับจากความเสียหายจากสารพิษต่างๆ เช่น แอลกอฮอลล์
- สารสกัดชาเขียว ช่วยในการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายให้เป็นพลังงาน
- ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เนื่องจากมีผลในการกระตุ้นการทำงานระดับเซลล์
เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ ยอดแห่งสมุนไพรจากแผ่นดินจีน ความหวังของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ต้านมะเร็ง เสริมภูมิต้านทาน เสริมการรักษา-ลดความทรมานจากเคมีบำบัด ขับพิษ บำรุงร่างกาย ปราศจากผลข้างเคียง
- โรคความดันโลหิตสูง และต่ำ
- โรคหัวใจอันมีสาเหตุจากโรคความดันโลหิตสูง และลิ่มเลือด
- เป็นลมบ่อย น้ำตาลในเส้นเลือดสูง เส้นเลือดอุดตัน
- โรคหญิงวัยหมดประจำเดือน และโรคเฉพาะสตรี
- ท้องผูก ริดสีดวงทวาร
- โรคตับอักเสบเรื้อรัง
- ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะบ่อย
- โรคกระเพาะ โรคลำไส้เป็นแผล
- โรคภูมิแพ้ (เช่น แพ้อากาศ หวัดเรื้อรัง)
- โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคหอบหืด
- ปวดเอว ปวดข้อ ไขข้ออักเสบ (โรคประจำตัวในวัยกลางคนขึ้นไป)
- โรคนอนไม่หลับ เซื่องซึม อ่อนเพลีย
- โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง เป็นต้น
- ต้านการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง
- ระงับการกระจายของเซลล์มะเร็ง
- ระงับอาการปวด
เปลือกสน
- Pycnogenol ที่ได้จากสารสกัดจากเปลือกสน จะช่วยประสานและปกป้องคอลลาเจน (คอลลาเจน เป็นโปรตีนในผิวหนังที่ช่วยให้ ผิวตึงกระชับไม่เหี่ยวย่น)
- โดย Pycnogenol จะจัดการกับเอนไซม์ และสารอนุมูลอิสระ ไม่ให้มาทำลาย เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน จึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอย
- ป้องกันปัญหาฝ้า เเละผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัย Pycnogenol ก็ยังช่วยได้ โดยจะเข้าไป ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เเละไปยับยั้งการทำงานของเม็ดสีผิว ที่ผิดปกติ
- ทำให้ผิวเนียนเรียบ เเข็งเเรง เเละยืดหยุ่นได้ดีขึ้น สีผิวสม่ำเสมอ นอกจากนี้ การได้รับ Pycnogenol เป็นประจำ
- ส่งผลให้ลดภาวะความเสี่ยง ต่อการเป็น มะเร็งที่ผิวหนัง เนื่องจากเป็น สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่งไปกว่านั้นสารสกัดจากเปลือกสน ยังช่วยยับยั้ง การก่อมะเร็งผิวหนัง ที่เกิดจากการสัมผัส หรือกระตุ้นด้วยสารเคมี อีกด้วยและสารสกัดจากพืชผักผลไม้อื่น อีกหลายชนิด
วิธีรับประทาน : ครั้งละ 2 แคปซูล หลังอาหาร วันละ 2 ครั้ง(เช้า-เย็น)
1 กระปุก บรรจุ 30 แคปซูล
Betabiotech ผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเทค สรรพคุณ ซ่อมเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ แผลเบาหวาน
แผลเบาหวาน มักจะเกิดขึ้นที่เท้า ความรู้ที่ไม่อาจมองข้ามได้
เบาหวานจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่เท้าซึ่งมีสาเหตุจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเท้าตีบแข็งจนบางครั้งอุดตัน ทำให้เกิดแผลเนื่องจากเนื้อเยื่อขาดเลือดหล่อเลี้ยง บางท่านอาจมีแผลอยู่ เช่นแผลจากการเกา แผลยุงกัด หรือจากการหกล้ม แผลเหล่านั้นก็จะหายมากค่ะ ปลายประสาทอักเสบ และเสื่อม(ทำให้ผู้ที่เป็นเบาหวานสูญเสียการรับรู้ ไม่มีการระมัดระวัง ) จึงทำให้เกิดแผลกดทับ แผลลุกลามมาก
โรคแทรกซ้อน
แผลที่เท้าของผู้ที่เป็นเบาหวาน มักมีการติดเชื้อร่วมด้วยเสมอค่ะ โดยเฉพาะมีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ทำให้การอักเสบลุกลามมากขึ้น เกิดการอุดต้นของเส้นเลือดฝอย ทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือด แผลมีกลิ่นเหม็นเน่าได้ค่ะ และหากมีภาวะแทรกซ้อนทางประสาทและหลอดเลือดด้วยแล้ว โอกาสที่จะรักษาหายก็ยากมากขึ้นตามลำดับ และโอกาสที่จะถูกตัดเท้าที่เป็นแผลก็มากขึ้นด้วยค่ะ
ใส่ใจกับการป้องกันกันดีกว่าค่ะ
@ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีที่สุด
@งดการสูบบุหรี่
@ควรออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ
@ควบคุมไขมันในเลือดให้อยู่ภาวะปกติ
@ควบคุมโรคความดันโรหิตสูงให้อยู่ภาวะปกติ (ผู้ที่เป็นเบาหวานส่วนใหญ่ จะมีภาวะความดันโลหิตสูงอยู่ด้วยค่ะ)
@ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่มาตราฐาน
@หมั่นดูแลเท้าของตัวเอง อย่าให้เกิดแผล หากมีแผลเพียงเล็กน้อยต้องรีบ พบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างโดยเร็วค่ะ..
ที่นี้รู้พิษสงของเจ้าแผลเบาหวานแล้วใช่ไหมคะ ทางที่ดีที่สุดเราควรดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบถ้วน (5หมู่) แต่ถ้าท่านใดที่ป่วยเป็นเบาหวานอยู่ อย่าเสียกำลังใจกันนะคะ หมั่นตรวจเช็คร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ระมัดระวังตัวตามคำแนะนำของแพทย์ให็เป็นวินัยค่ะ ก็หากไกลจากภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานแล้วค่ะ
====================================================================
คุณประโยชน์หลักๆที่มีอยู่ใน ผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเทค Beta Biotech
⇀ ซ่อมเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ จากแผลกดทับ
⇀ เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
⇀ เสริมสร้าง และกระตุ้นไขกระดูก เพิ่มการผลิตเม็ดเลือดขาว
⇀ เพิ่มประสิทธิภาพภูมิต้านทานโรคต่างๆ
⇀ บำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส อ่อนกว่าวัย
⇀ บำรุงรักษาการอักเสบ เจ็บปวด ทุกส่วนของร่างกาย
⇀ บำรุงตับอ่อน (ต้านเบาหวาน) ล้างพิษตับ
⇀ ป้องกันและต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง เนื้องอก เซลล์ผิดปกติต่างๆ
สารประกอบหลักใน เบต้าไบโอเทค Beta Biotech
ผักขม แครอท คลอลาเจน ชาเขียว เห็ดหลินจือ เปลือกสน และส่วนผสมจาก พืชผัก ผลไม้และสมุนไพร อีกหลายชนิด
***ผู้ที่อยู่ในภาวะมีแผลที่หายยาก แผลกดทับที่เป็นเรื้อรัง (โดยเฉพาะแผลเบาหวาน) ผลิตภัณฑ์เบต้าไบโอเทค จะช่วยฟื้นฟูเซลล์ของผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อที่ตายแล้ว หรือกำลังจะตายเนื่องเป็นบริเวณที่เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงได้**
ลุงสมนึกผู้ที่รับประทานผลิตภัณฑ์ “เบต้าไปโอเทค”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น